หากจะพูดถึงพืชผักสมุนไพรที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดีและเป็นที่นิยมนำมาประกอบอาหาร หรือทำเป็นยาสมุนไพรแก้อาการช้ำในแล้วล่ะก็ คุณคิดไม่ผิดหรอกครับนั่นก็คือใบบัวบกนั่นเอง ต้นบัวบก (หรือผักหนอกในภาษาอิสาน,เหนือ) ส่วนทางภาคอิสานนิยมนำมากินเป็นผักแกล้มกับลาบ
แต่รู้หรือไม่ว่าใบบัวบกไม่ได้มีประโยชน์แค่เป็นผักหรือเป็นยาแก้อาการช้ำในเท่านั้นนะ แต่มันยังสามารถรักษาโรคอื่นๆได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่นโรคผิวหนังบางชนิด แผลในกระเพาะอาหาร ท้องเสีย ท้องอืด ลมชัก และมีฤทธิ์ช่วยกล่อมประสาท บำรุงสมอง เรียกว่าสรรพคุณมากมายเกินตัวจริงๆ งั้นเรามาทำความรู้จักกับเจ้าใบบัวบกกันเลยดีกว่า
ใบบัวบก ชื่อสามัญ Gotu kola
บัวบก ชื่อวิทยาศาสตร์ Apiaceae จัดอยู่ในวงศ์ผักชี (Umbellifers)
ต้นบัวบก หรือ ใบบัวบก มีสารประกอบที่สำคัญหลายชนิด เช่น บราโมซัยด์ บรามิโนซัยด์ ไตรเตอพีนอยด์ มาดิแคสโซซัยด์ ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยต้านการอักเสบ และยังมีกรดมาดิแคสซิค วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 6 วิตามินเอ วิตามินเค ธาตุแคลเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุโซเดียม และกรดอะมิโน อย่างเช่น แอสพาเรต กรดกลูตามิก เซรีน ทรีโอนีน อะลานีน ไลซีน ฮีสทีดิน เป็นต้น
วิธีคั้นน้ำจากใบบัวบก
- แนะนำให้ใช้ใบบัวบกที่ไม่อ่อนจนเกินไป สามารถใช้ได้ทั้งรากนำมาล้างน้ำให้สะอาด
- สับหรือหั่นใบบัวบกให้เป็นชิ้นเล็กๆก่อนนำมาบดให้ละเอียดพอประมาณ
- นำใบบัวบกที่บดเสร็จแล้วมาผสมน้ำในปริมาณที่พอเหมาะ
- กรองเอาน้ำใบบัวบกด้วยผ้าขาวบางให้น้ำกับกากใยแยกออกจากกัน ก็เป็นอันเสร็จพิธี
- แล้วเราจะได้น้ำใบบัวบกที่ใสสะอาดพร้อมดื่มให้หายช้ำรัก เอ้ยย ให้หายช้ำในกันแล้ววว (แนะนำให้เติมน้ำแข็งให้เย็นหรือใส่น้ำเชื่อมเพิ่มจะทำให้ดื่มง่ายกว่าเดิมครับ)
ประโยชน์ที่ได้จากใบบัวบก
- ช่วยเสริมสร้างและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน
- ใช้ปรุงเป็นยาอายุวัฒนะ
- ช่วยบำรุงสายตา ใบบัวบกมีวิตามินเอสูง
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ และช่วยต่อต้านการเสื่อมของเซลล์ต่างๆ
- ช่วยบำรุงประสาทและสมอง
- บำรุงโลหิต และรักษาภาวะโลหิตจาง
- ช่วยเพิ่มความจำให้ดีขึ้นในผู้สูงอายุ
- ช่วยเพิ่มสมาธิ แก้สมาธิสั้น
- ลดความเครียด คลายความกังวล
- ใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย
- มีสรรพคุณช่วยแก้อาการร้อนใน
- ช่วยรักษาพิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย